ปัญหาและเฉลย
วิชาอุโบสถศีล (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕
เวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น.




คำสั่ง : จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วกากบาทลงในช่องของข้อ
ที่ต้องการในกระดาษคำตอบ ให้เวลา ๕๐ นาที (๑๐๐ คะแนน)
   
๑. เครื่องควบคุมความประพฤติทางกาย วาจา ให้เรียบร้อยคือ…?
  ก. ทาน ข. ศีล
  ค. สมาธิ ง. ปัญญา
 
๒. เป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา ได้แก่…?
  ก. มนุษยสมบัติ ข. สวรรคสมบัติ
  ค. สมาบัติ ๘ ง. มรรค ผล นิพพาน
 
๓. พาณิชสองพี่น้อง เข้าถึงพระรัตนตรัยด้วยวิธีใด ?
  ก. สมาทาน ข. มอบตนเป็นสาวก
  ค. ถวายชีวิตในพระรัตนตรัย ง. เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
 
๔. สรณคมน์ หมายเอาการถึงสรณะในข้อใด ?
  ก. พระพุทธเจ้า ข. พระธรรม
  ค. พระสงฆ์ ง. ทั้ง ๓ ข้อ
 
๕. การขาดสรณคมน์ไม่มีโทษ เพราะ…?
  ก. ความตาย ข. ทำร้ายพระศาสดา
  ค. ไปนับถือศาสดาอื่น ง. ไม่มีข้อถูก
 
๖. ผู้ใด มีสรณคมน์เศร้าหมอง ?
  ก. ดำไม่ถูกกับพระบางรูป ข. ปีเตอร์สมาทานศีลไม่ชัด
  ค. พระเท่งไปเที่ยวประเทศ
อิรัก
ง. ชัดสงสัยว่าพระพุทธเจ้า
มีจริงหรือ
 
๗. อุโบสถชนิดใด รักษาตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ?
  ก. ปกติอุโบสถ ข. ปฏิชาครอุโบสถ
  ค. ปาฏิหาริยอุโบสถ ง. อริยอุโบสถ
 
๘. ศีลข้อใด สนับสนุนให้คนงามตามธรรมชาติ ?
  ก. ศีลข้อ ๕ ข. ศีลข้อ ๖
  ค. ศีลข้อ ๗ ง. ศีลข้อ ๘
 
๙. เมื่อพระสงฆ์กล่าวว่า “ติสรณคมนํ นิฏฺิตํํ” พึงรับพร้อมกันว่า…?
  ก. สาธุ ภนฺเต ข. สมฺปฏิจฺฉามิ
  ค. อาม ภนฺเต ง. สาธุ อนุโมทามิ
 
๑๐. ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ปฏิบัติอย่างไรถูกต้องที่สุด ?
  ก. ทำพิธีรับขันธ์ห้า ข. ปฏิบัติเพื่อละกิเลส
  ค. ทำบุญเพื่อเสริมดวงชะตา ง. หาเช่าบูชาพระเครื่องรุ่นนิยม
 
๑๑. คำว่า “พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ” ใครกล่าวครั้งแรก ?
  ก. อุปกาชีวก ข. ตปุสสะ ภัลลิกะ
  ค. ท้าวมหาพรหม ง. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
๑๒. จากคำถามข้อที่ ๑๑ กล่าวไว้เพื่อจุดประสงค์ใด ?
  ก. เพื่อเป็นวิธีบวช ข. เพื่อสอนชาวบ้าน
  ค. เพื่อเจริญอนุสสติ ง. เพื่อป้องกันอมนุษย์
 
๑๓. การขาดสรณคมน์ อาจเกิดขึ้นได้กับบุคคลใด ?
  ก. โสดาบันบุคคล ข. สกทาคามีบุคคล
  ค. อนาคามีบุคคล ง. บุคคลทั่วไป
 
๑๔. ข้อใด ไม่จัดอยู่ในสรณะทั้ง ๓ ?
  ก. พระสมณโคดม ข. พระโพธิสัตว์
  ค. พระกัสสปเถระ ง. พระขีณาสพ
 
๑๕. ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย” ตามความหมายที่ถูกต้องคือข้อใด ?
  ก. ตปุสสะและภัลลิกะ ข. อุตรมานพ
  ค. สุปปพุทธกุฏฐิ ง. พรหมายุพราหมณ์
 
๑๖. ผู้ใด เป็นตัวอย่างของผู้ถึงพระรัตนตรัยอย่างมั่นคง ?
  ก. ตปุสสะและภัลลิกะ ข. อุตรมานพ
  ค. สุปปพุทธกุฏฐิ ง. พรหมายุพราหมณ์
         
๑๗. พุทธะ แปลว่า ผู้รู้ หมายถึง ?
  ก. รู้ตามผู้อื่น ข. รับความรู้จากพระเจ้า
  ค. คิดเอาเอง ง. ตรัสรู้และสอนให้ผู้อื่นรู้
 
๑๘. พระสงฆ์ได้นามว่าสังฆะ เพราะ…?
  ก. มีทิฏฐิและศีลเสมอกัน ข. อาศัยอยู่ในวัดเดียวกัน
  ค. โกนผมห่มจีวรเหมือนกัน ง. นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน
 
๑๙. ผู้เปล่งวาจาว่า “ข้าพเจ้านอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า” ชื่อว่า
ถึงสรณะด้วยวิธีไหน ?
  ก. ปฏิบัติหน้าที่พุทธบริษัท ข. ยอมนอบน้อม
  ค. มอบตนเป็นสาวก ง. การสมาทาน
 
๒๐. สรณคมน์ของผู้ใด ไม่มีการขาด ?
  ก. ภิกษุ ข. ภิกษุณี
  ค. อุบาสกอุบาสิกา ง. พระอริยบุคคล
 
๒๑. คำว่า “สรณะ” แปลว่า ที่พึ่ง หมายถึงอะไร ?
  ก. มีความขลัง ข. กำจัดทุกข์ได้
  ค. ดลบันดาลอะไรก็ได้ ง. มีความศักดิ์สิทธิ์
 
๒๒. การถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ หมายถึงอะไร ?
  ก. การขอพร ข. การบนบาน
  ค. การขอความคุ้มครอง ง. การปฏิบัติตามคำสอน
 
๒๓. ข้อใด เป็นเหตุให้สรณคมน์เศร้าหมอง ?
  ก. ไม่รู้จักพระรัตนตรัย ข. เข้าใจผิดในพระรัตนตรัย
  ค. ไม่เอื้อเฟื้อพระรัตนตรัย ง. ถูกทุกข้อ
 
๒๔. ในคังคมาลชาดก พระโพธิสัตว์ชื่อว่าไม่ได้สมาทานรักษาอุโบสถ
เพราะสาเหตุใด ?
  ก. รับประทานอาหารเย็น ข. ไม่รับประทานอาหาร
  ค. ไม่ได้รับอุโบสถศีล ง. ไม่ได้อธิษฐานอุโบสถ
 
๒๕. อุโบสถใด ไม่ประกอบด้วยสรณคมน์และองค์ ๘ ?
  ก. อุโบสถนอกพุทธกาล ข. อุโบสถสมัยพุทธกาล
  ค. อุโบสถหลังพุทธกาล ง. อุโบสถในปัจจุบัน
 
๒๖. ปกติอุโบสถนั้นกำหนดรักษาเดือนละ ๔ วัน ยกเว้นวันใด ?
  ก. วันขึ้น ๑๔ ค่ำ ข. วันแรม ๘ ค่ำ
  ค. วันขึ้น ๑๕ ค่ำ ง. วันแรม ๑๔ ค่ำ
 
๒๗. ข้อใด ไม่ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดศีลอุโบสถ ?
  ก. ร้องเพลงชาติ ในเวลา ๘
นาฬิกา
ข. เดินเหยียบมดตาย
โดยไม่รู้ตัว
  ค. ทานยาดองเหล้า
เพื่อแก้ปวดเมื่อย
ง. ทานข้าวหลังเที่ยง
เพราะต้องกินยา
 
๒๘. การรักษาอุโบสถประเภทใด ได้อานิสงส์มากที่สุด ?
  ก. ปฏิชาครอุโบสถ ข. ปาฏิหาริยอุโบสถ
  ค. โคปาลกอุโบสถ ง. อริยอุโบสถ
 
๒๙. การสมาทานรักษาศีลอุโบสถนั้น เหมาะแก่ใคร ?
  ก. คนสูงอายุ ข. คนทำงาน
  ค. คนวัยรุ่น ง. ถูกทุกข้อ
 
๓๐. สถานที่ใด สามารถอยู่รักษาอุโบสถศีลได้ ?
  ก. วัดใกล้บ้าน ข. สวนสาธารณะ
  ค. ป่าช้า ง. ถูกทุกข้อ
 
๓๑. การกระทำใด ทำให้ศีลข้อที่ ๗ ขาด ?
  ก. ฟังละครวิทยุ ข. แต่งหน้าทาปาก
  ค. ถูกทั้ง ก. และ ข. ง. นอนบนที่นอนสูง
 
๓๒. ในเรื่องปัญจอุโบสถ แสดงให้เห็นถึงข้อใด ?
  ก. ควรแก้ทุกข์ด้วยศีลธรรม ข. การประพฤติธรรมทำให้มีอายุยืน
  ค. โทษที่เกิดจากการล่วง
ละเมิดอุโบสถ
ง. ปาฏิหาริย์ที่เกิดจากการ
รักษาอุโบสถ
 
๓๓. ความเชื่อใด ไม่ใช่ความเชื่อของผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ?
  ก. ชาติหน้ามีจริง ข. ผลของกรรมมีจริง
  ค. ลางดี ลางร้าย บอกเหตุได้จริง ง. การประพฤติธรรมทำให้
พ้นทุกข์ได้จริง
 
๓๔. เมื่อรักษาอุโบสถศีลแล้ว การรักษานั้นจะสิ้นสุดได้เมื่อใด ?
  ก. เมื่อพ้นกำหนดเวลา ข. เมื่อลาศีลกับพระภิกษุ
  ค. เมื่อตั้งเจตนาเลิกรักษา ง. เมื่อเปล่งวาจาเลิกรักษา
 
๓๕. ขณะที่รักษาอุโบสถ หากเผลอล่วงละเมิดศีล ควรทำอย่างไร ?
  ก. ลาศีลกลับบ้าน ข. พยายามสำรวมระวังต่อไป
  ค. ทำบุญสะเดาะเคราะห์ ง. อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร
 
๓๖. คำกล่าวขึ้นต้นว่า “อชฺช โภนฺโต ปกฺขสฺส อฏฺมีทิวโส…”
เป็นคำกล่าวของข้อใด ?
  ก. คำอาราธนาอุโบสถศีล ข. คำประกาศอุโบสถ
  ค. คำบูชาพระรัตนตรัย ง. คำรับสรณคมน์
 
๓๗. ข้อใด หมายถึงการรักษาศีล ?
  ก. การขอศีล ข. การรับศีล
  ค. การสมาทานศีล ง. การไม่ล่วงละเมิดศีล
 
๓๘. ขั้นตอนใด ต้องทำก่อนประกาศอุโบสถ ?
  ก. อาราธนาศีล ข. บูชาพระรัตนตรัย
  ค. สมาทานศีล ง. รับสรณคมน์
 
๓๙. การเข้าวัดปฏิบัติธรรม ข้อไหนถูกต้อง ?
  ก. เพื่อทำพิธีตัดกรรม ข. เพื่อเสริมดวงชะตา
  ค. เพื่อหาแสวงหาโชคลาภ ง. เพื่อเจริญภาวนา
 
๔๐. อุโบสถก่อนพุทธกาล หมายถึง ?
  ก. การสมาทานองค์ ๘ ข. การบำเพ็ญตบะบูชาไฟ
  ค. การรับประทานแต่ผลไม้ ง. การอดอาหารในวันที่กำหนด
 
๔๑. อุโบสถกรรมครึ่งเดียว หมายถึง ?
  ก. รักษาศีล ๔ ข้อ ข. รักษาศีลครึ่งวัน
  ค. รักษาศีล ๓ วัน ง. รักษาศีลบ้างไม่รักษาบ้าง
 
๔๒. ความมุ่งหมายของการเข้าจำอุโบสถ คือข้อใด ?
  ก. หยุดพักการงาน ข. ขัดเกลากิเลส
  ค. สงบสติอารมณ์ ง. ถูกทุกข้อ
 
๔๓. วิธีรักษาอุโบสถก่อนพุทธกาลทำอย่างไร ?
  ก. เปล่งวาจาสมาทาน ข. อธิษฐานอุโบสถเอง
  ค. รับโอวาท ๓ ข้อ ง. รับจากพระปัจเจกพุทธเจ้า
 
๔๔. เมื่อรักษาอุโบสถศีลข้อที่ ๗ ห้ามกระทำสิ่งใด ?
  ก. ร้องเพลง ข. แต่งหน้าทาปาก
  ค. ฟ้อนรำ ง. ถูกทุกข้อ
 
๔๕. สมาทานอุโบสถศีลโดยวิธีใด จึงถูกต้อง ?
  ก. เปล่งวาจาอธิษฐานเอง ข. สมาทานจากพระภิกษุ
  ค. สมาทานจากคนที่รู้และเข้าใจ ง. ถูกทุกข้อ
 
๔๖. ข้อใด จำเป็นสำหรับผู้รักษาอุโบสถศีล ?
  ก. ต้องไปรักษาศีลที่วัด ข. ต้องสมาทานศีลกับพระ
  ค. ต้องเปล่งวาจาสมาทาน ง. ต้องสมาทานศีลทีละข้อ
 
๔๗. ความหมายแห่งการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง คือข้อใด ?
  ก. ฝึกใจให้ผ่องใส ข. เข้าป่าหาผู้วิเศษ
  ค. ทิ้งบุตรธิดาได้ ง. ทิ้งมารดาบิดาได้
 
๔๘. ศีลข้อใด บัญญัติไว้สำหรับผู้รักษาอุโบสถเท่านั้น ?
  ก. เว้นปาณาติบาต ข. เว้นอทินนาทาน
  ค. เว้นอพรหมจรรย์ ง. เว้นมุสาวาท
 
๔๙. ศีลข้อใด ถือปฏิบัติได้ทั้งคนทั่วไปและผู้รักษาอุโบสถ ?
  ก. เว้นปาณาติบาต ข. เว้นอพรหมจรรย์
  ค. เว้นวิกาลโภชนา ง. เว้นการฟ้อนรำขับร้อง
 
๕๐. เพราะเหตุใด จึงห้ามผู้รักษาอุโบสถ ดูการละเล่นต่างๆ ?
  ก. เสียเวลาทำกิน ข. เสียสุขภาพจิต
  ค. เสียทรัพย์ ง. เป็นข้าศึกแก่กุศล
         
     
เอกสารอ้างอิง    
  เรื่องสอบธรรม ของสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ.๒๕๔๘. หน้า
         

ข้อสอบสนามหลวง